กฏหมายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
ในประเทศไทยการกำหนดลิขสิทธิ์ได้ปรากฏครั้งแรกราว พ.ศ.2445 ในรัชกาลที่ 5
เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานวรรณกรรม (Literacy) เรื่อง
“วัชิรญาณวิเศษ” และได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายใหม่ในปี
พ.ศ.2457 สมัยรัชกาลที่ 6
โดยยังคงเน้นงานด้านวรรณกรรม ต่อมาในปีพ.ศ.2474
สมัยรัชกาลที่ 7 ได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มีความสมบูรณ์ครอบคลุมงานอื่น
ๆ อีกเช่น
งานคิดค้นทางวิทยาศาสตร์และผลงานของชาวต่างชาติแก่กฎหมายฉบับนี้มีบทลงโทษในสถานเบา
ในปีพ.ศ.2521 ได้เพิ่มงานสื่อภาพ เสียง
และวีดีโอให้ครอบคลุมของกฎหมาย จากนั้นอีก 15 ปี คือ พ.ศ.2534 รัฐบาลได้ประกาศขยายความครอบคลุมงานด้านวรรณกรรม
ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
การนำไปเผยแพร่และการให้เช่า งานด้านสื่อภาพ เสียง (Visual – Sound –
Video) พระราชบัญญัติฉบับนี้ถูกใช้มาจนถึงปัจจุบันโดยเริ่มบังคับใช้ในวันที่
21 มีนาคม 2538
ภายใต้ความรับผิดชอบดูแลของกรมลิขสิทธิ์ทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ (Department
of Intellectual Property - DIP)
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ถูกกำหนดนิยามเป็นชุดของคำสั่ง
หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้หรือได้ผลลัพธ์ใด ๆ ออกมา
ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ถือเป็นงานวรรณกรรม (Literacy) คล้าย ๆ กับหนังสือ
บทประพันธ์ บทบรรยาย การละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกลงโทษโดยการปรับ 20,000 ถึง 200,000 บาท หากละเมิดกระทำไปเพื่อหวังผลกำไร –
เป็นการค้า จะปรับ 100,000 ถึง 800,000 บาท หรือจำคุก 6 เดือนถึง 4
ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ การป้องกันสิทธิ์จะครอบคลุมตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์งานนั้น
ๆ บวก 50 ปี
การขอลิขสิทธิ์จะต้องจัดเตรียมหนังสือมอบอำนาจทำการแทน (ถ้ามี)
แบบฟอร์มคำร้องขอจำนวน 3 ชุด ชุดสิ่งประดิษฐ์ 2 ชุดหรือภาพถ่าย (ในกรณีมิอาจนำสิ่งของ – ผลงานมายื่นเสนอได้)
- ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มีสัญชาติหรือเป็นพลเมืองของประเทศที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม
ความตกลงกรุงเบริน (Berne Convention for Protection of Literacy and
Artistic Works) เช่น USA, UK, JAPAN
- งานนั้นได้จดสิทธิบัตรไว้ในประเทศที่เป็นสมาชิกของ
Berne หรือ TRIPs
(องค์กรต่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกอยู่ เช่น United
Nations – UN, WHO – World Health Organization) เป็นต้น
ผู้ละเมิดจะไม่มีความผิดหาก
- มิได้มีเจตนาเพื่อการค้าหรือแสวงหากำไร
- มิได้ล่วงล้ำสร้างความเสียหายที่รุนแรงใด ๆ ต่อเจ้าของลิขสิทธิ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น